อัพเดตเรื่องสุขภาพและความงาม แฟชั่น ได้ที่นี่

FASHION เทรนด์การใช้ชีวิต การมีไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ

FASHION แฟชั่นคืออะไร? เกิดขึ้นได้อย่างไรเรามารู้จักคำนี้กัน!

FASHION ในภาษาไทยอ่านว่า “แฟชั่น” ราชบัณฑิตสถานได้ให้ความหมายคำนี้ไว้ว่า “สมัยนิยมหรือวิธีการที่นิยมกันทั่วไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง” ได้มีการยอมรับ จนเกิดเป็น ค่านิยม เป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และมีกระบวนการเกิดใหม่ของภาษา “วิวัฒนาการ” ที่ทฤษฎีของ ชาร์ลส์ ดาร์วินระบุไว้ว่าวิวัฒนาการ คือการเปลี่ยนแปลงที่ใช้ระยะเวลายาวนาน และมีการถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นไปถึงลูกหลาน โดยส่วนใหญ่คำว่าแฟชั่น ไม่ได้มีความหมายเกี่ยวกับ การแต่งตัวเพียงเท่านั้น ยังมีการจำแนกไปอีกหลากหลาย

แต่สไตล์การแต่งตัวสามารถจำแนกได้หลายประเภทมาก ๆ ไฉไลขอเกิ่นเพียงเล็กน้อย ให้พอได้เข้าใจก่อน ต่อไปนี้เป็นสไตล์เด่น ๆ หลัก ๆ ที่เป็นที่นิยมในอดีตจนปัจจุบัน บางสไตล์ก็อาจจะล้าสมัยและตกยุค บางสไตล์ถือว่าเป็นคลาสสิค เพราะแต่งเมื่อไร ก็ไม่ถูกมองว่าเชยหรือตกรุ่น แต่ก็ยังมีบางสไตล์ที่เคยตกยุคล้าสมัยไปแล้ว ก็เวียนกลับมานำเทรนด์ได้อีกครั้งในยุคปัจจุบัน

เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ที่จะจำกัดความของคำว่า “แฟชั่น” เพราะคำ ๆ นี้มีความหมายกว้างไกลเกินกว่าจะจำกัด ความได้ในตัวของมันเอง ไม่ใช่แค่ในเรื่องของเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องประดับต่าง ๆ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หมายรวมถึงอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ หรือนามธรรมจับต้องไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงระยะเวลาหนึ่งนอกจากเทรนด์ FASHION แล้ว เทรนด์การใช้ชีวิต การมีไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่เป็นการบอกเล่าถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ ทัศนคติต่อการใช้ชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ กำลังเป็นที่นิยม อาทิ รูปแบบการใช้ชีวิตแบบ Slow Life หรือสไตล์การใช้ชีวิตโลดโผนที่ถือคติที่ว่า “YOLO” (You Only Live Once) การนิยมชมชอบใช้ของแบรนด์เนมต่าง ๆ หรือกระแสการใช้ชีวิตสีเขียว ที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุล เป็นต้น

ประวัติของแฟชั่นตามยุคสมัย

เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่าง ๆ เป็นปัจจัย 1 ใน 4 ที่มนุษย์มีความต้องการในการดำรงชีวิต ในการปกปิดและให้ความอบอุ่นแกร่างกาย ประดับเพื่อความสวยงาม วิวัฒนาการตามกาลเวลาของมนุษย์ ทำให้เสื้อผ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และเสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้ เช่น ฐานะ, เชื้อชาติ, อาชีพ, เผ่าพันธุ์ ฯลฯ

ในแต่ละยุคสมัยนั้น การพัฒนาของแฟชั่นก็มีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การเมือง, เศรษฐกิจ, ภูมิอากาศ, ฯลฯ ในศตวรรษที่ 20 แฟชั่นของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะปี ค.ศ. 1920 – 1930 หรือเรียกว่ายุค แฟลปเปอร์ (Flapper) ผู้หญิงสวมกระโปรงสั้นเป็นครั้งแรก และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้หญิงต้องออกจากบ้านเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพ

ดังนั้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ย่อมเปลี่ยนไป เพื่อเอื้อประโยชน์ในผู้สวมใส่มากขึ้น กางเกงจึงเป็นที่นิยม ตั้งแต่ ยุคแฟลปเปอร์ เป็นต้นมา แฟชั่นของโลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสากล เพราะการติดต่อสื่อสารของโลกตะวันตก และตะวันออกเป็นได้เปิดกว้างมากขึ้น มีการไปมาหาสู่กัน แฟชั่นของโลกตะวันตก จึงเข้ามามีบทบาทกับโลกตะวันออก เช่น คนไทยรณรงค์ให้สวมหมวก หรือ ผู้หญิงไทยเลิกสวมโจงกะเบน เพื่อความเป็นสากล

ลักษณะหรือแบบแผนของ FASHION เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแต่ละยุคสมัย เรียกว่า สไตล์ (Style) แต่ละคนมีสไตล์การแต่งตัวไม่เหมือนกัน เช่น บางคนชอบแต่งตัวสไตล์ พั้งค์ (Punk) หรือเด็กสาวๆชอบสไตล์เซ็กซี่ ที่ฝรั่งเรียกว่า ราซี่ (Racy or Provocative) ส่วนคำว่า เทรนด์ (Trend) คือ แฟชั่นล่าสุด ที่กำลังเป็นที่นิยม

สไตล์การแต่งตัวสามารถ จำแนกได้เป็นประเภทนับไม่ถ้วน ต่อไปนี้เป็นสไตล์เด่น ๆ หลัก ๆ ที่เป็นที่นิยมในอดีตจนปัจจุบัน บางสไตล์ถือว่าล้าสมัยไปแล้วในปัจจุบัน บางสไตล์ถือว่าเป็นคลาสสิค เพราะแต่งเมื่อไร ก็ไม่ถูกมองว่าเชยหรือตกรุ่น อย่างไรก็ตามยังมีบางสไตล์ ที่เคยล้าสมัยไปแล้วอาจเวียนกลับมาเทรนด์อีกครั้ง

FASHION

FASHION ประโยชน์ของการแต่งตัว ตามแฟชั่นมีอะไรบ้าง

การแต่งตัวของผู้คนในสังคมปัจจุบันนี้ ล้วนเป็นสไตล์ที่แต่ละคน ที่แสดงออกมาถึงทัศนคติบางอย่าง ที่สะท้อนความเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ของตัวเอง และสไตล์ในการดำรงชีวิต ที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละคน บางคนก็มองว่าการแตกตัวเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องติดตามข่าวต้องตามกระแสในวงการแฟชั่น ต้องไม่ตกเทรนด์ รูปแบบเสื้อผ้าที่สวมใส่ตามสมัยนิยม ตามแฟชั่นที่กำลังมาแรงในช่วงเวลานั้น ๆ

กับกลุ่มคนที่ไม่ได้มีความซีเรียสมากกับการแต่งตัว คือไม่ได้สนใจว่าผู้คนในสังคมจะมีแนวโน้ว หรือความนิยมแต่งการไปในทิศทางไหน คนเหล่านี้จะให้ความสนใจในเรื่อง BEAUTY ของการเปลี่ยนแปลงทางด้านแฟชั่นค่อนข้างน้อย หรือแทบจะไม่ให้ความสนใจเลย เพราะพวกเขาเหล่านั้นอาจมีสไตล์การแต่งตัว ที่แสดงตัวตนที่ชัดเจนในการเป็นตัวเอง อย่างไรก็ตามประโยชน์ของการแต่งตัวตามแฟชั่นมีอะไรบ้าง ตามไฉไลมาค่ะ

1.ช่วยเสริมให้เป็นคนที่มี ความทันสมัย แน่นอนว่าถึงแม้จะไม่ใช่ทุก ๆ อาชีพไ หรือทุกสังคมที่จำเป็นต้องมีความทันสมัย หรือตามเทรนด์ก้าวให้ทันกับ การเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก แต่ก็มีอีกหลากหลายอาชีพเช่นเดียวกันที่การเป็นคนที่แต่งตัวตามสมัยนิยม เป็นคนที่ก้าวตามทันแฟชั่นจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้คน ๆ นั้นดูดีขึ้น และสามารถได้รับความนิยมชมชอบ จากผู้คนในสังคมที่ตนอยู่ได้มากขึ้น เช่น อาชีพศิลปิน ดารา นักแสดง เป็นต้น

2.ช่วยให้แต่ละวันไม่น่าเบื่อกับการแต่งตัว ที่จริงก็ปฏิเสธกันไม่ได้ว่า การที่จะก้าวออกจากบ้านแต่ละวัน ในทุก ๆ ครั้ง การแต่งตัวก็แทบจะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ต้องนึกถึงกันว่าจะไปไหน? แล้วใส่อะไรดี ซึ่งก็มีคนที่ไม่ได้สนใจในเรื่องของแฟชั่น ก็จะแต่งตัวไปตามแบบเดิม ๆ แนวเดิม ๆ ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดเป็นความจำเจ และน่าเบื่อได้ในระยะยาว การแต่งตัวตามแฟชั่น ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเทรนด์การแต่งตัว จะทำให้เราสามารถมีไอเดียต่อยอด Mixed & Matched ในการแต่งตัวในแต่ละวัน ได้เพิ่มมากขึ้น เปลี่ยนวันอันแสนน่าเบื่อหน่าย ให้กลายเป็นวันดีดีที่สดใส ด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับเรา และเข้ากับความนิยมในช่วงเวลานั้น ๆ

3.ช่วยให้ผู้ที่สวมใส่มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะการแต่งตัวให้เข้ากับยุคสมัย กระแสนิยมในช่วงเวลาหนึ่งนั้น ที่จะทำให้เราดูไม่แปลกแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ ในสังคมได้ เราจึงรู้สึกกลมกลืนไปกับผู้คนในสังคม แต่อีกในแง่มุมหนึ่งการแต่งตัวตามแฟชั่นนั้น ก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่เราจะต้อง ไปแต่งตัวเหมือนคนอื่นหรือตามคนอื่นไปซะทุกอย่าง จนสูญเสียเอกลักษณ์ในความเป็นตัวตนไป

ซึ่งความเป็นจริงเราสามารถ แต่งตัวตามแบบของตัวเอง แต่ยังเข้ากับเทรนด์ของสังคมไปด้วยได้ ในเวลาเดียวกัน เพียงแต่การที่เราแต่งตัวตามแฟชั่น จะทำให้เรามีความมั่นใจ ในการแต่งกายมากยิ่งขึ้น และเมื่อเรามีความมั่นใจ คนที่พบเจอเราก็จะสามารถสังเกตเห็นได้ ความน่าเชื่อถือในตัวตน ในคำพูดของเราก็จะตามมาโดยปริยาย

อย่างไรก็ดีประโยชน์ของการแต่งตัวตามแฟชั่น มีอีกมากมายหลายสไตล์ สำหรับใครที่ยังไม่กล้า ที่จะตามเทรนด์เปลี่ยนการแต่งตัวตามแฟชั่น หากลองเปิดใจสักนิดจะรับรู้ได้เองว่า การเป็นคนแต่งตัวตามสมัยนิยม ก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลย ทั้งยังได้รับประโยชน์มากอีกด้วย

ทำไมการแต่งตัวตามแฟชั่น ถึงได้มีอิทธิพลมากเหลือเกิน

ทุกคนเห็นไหมคะว่า แฟชั่นมีอิทธิพลกับมนุษย์เป็นอย่างมาก การดูแลร่างกายด้วยเสื้อผ้า และเครื่อง ประดับทุกอย่างตั้งแต่ศีรษะจดเท้า จึงช่วยสร้างความมั่นใจ และเสริมบุคลิกภาพให้น่าเชื่อถือ ทั้งการออกไปเที่ยว ออกไปทำงาน เสื้อผ้ายังบ่งบอกถึงลักษณะ ความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้ เช่น ฐานะ, เชื้อชาติ, ฯลฯ

เครื่องแต่งกาย และของประดับ พฤติกรรมต่างๆ เช่น การซื้อบ้านหลังใหญ่ การไปสปาอบซาว์นา เล่น twitter+facebook ตามนักการเมือง ก็เป็นแฟชั่น เมื่อมันมีคนบ้าทำตามเป็นกระแสมาก ๆ ขึ้น ๆ ในสังคมที่เปิด มีการสื่อสารที่อำนวย เป็นช่องทางกระจาย ที่ทำให้เกิดการเลียนแบบ โดยในโลกแห่งการแสวงหานั้น ผู้บริโภคกลุ่มซึ่งมีอำนาจในการซื้อสูง มักเลือกใช้สินค้าและไลฟ์สไตล์เป็นต้นแบบ คนทั่วไปใช้พฤติกรรมต่าง ๆ

ของชนอีกระดับ เติมเต็มสิ่งที่โหยหา อาจใช้เป็นเครื่องมือเลื่อนระดับชั้นทางสังคม ( จอมปลอม) โดยมีความเชื่อว่าตัวเอง เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ซึ่งเรามักเห็น ความนิยมการใช้สินค้าแบร์นดเนม ของใช้ไฮเทค ที่อยากจะบอกสถานะตนว่าทันสมัยและอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบัน เห็นได้แม้พวกผู้ใหญ่ที่ มักทำตัวเป็นพวก Adolescence ก็มีเยอะ แม้จะขีดเขียนมาให้เห็น สรรพคุณที่ยืดยาว ของคำๆนี้ ก็อาจบรรยายความสามารถทางยา ของเจ้าคำว่า อิทธิพลของแฟชั่น ได้ไม่ครบถ้วน

 

อ่านบทความอื่นๆ »» FOOD WE LOVE 

ผู้สนับสนุน » »คลิ๊ก