BEAUTY องค์ประกอบโดยรวม ในความงามของผู้หญิง
BEAUTY สวัสดีค่ะบทความนี้ไฉไลจะพาทุกท่าน รู้จักกับผู้หญิงมากขึ้น ถ้าจะพูดถึงเรื่องความงาม ใคร ๆ ก็อยากที่จะดูดี ดูสวย ดูงดงามด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ก็รักสวยรักงามด้วยกันทั้งสิ้น หรือแม้แต่ในปัจจุบันผู้ชาย ก็หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น ถ้าจะให้นิยามคำว่า ความสวยหล่อ แต่ละคนก็อาจมีแง่มุมที่ต่างกันออกไป และมีหลายปัจจัยที่ทำให้ความงาม ของสตรีไทยในแต่ละยุคสมัย ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
สำหรับผู้หญิง BEAUTY ความสวยความงาม เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย มันเป็นสัญชาตญาณของเพศหญิง และกลไกของธรรมชาติ ที่มีมาเนิ่นนานตั้งแต่อดีตกาลแล้ว ซึ่งความงามในบางคนนั้น ไม่อาจจะงดงามได้ตั้งแต่กำเนิด แต่วิวัฒนาการเปลี่ยนเวลาเปลี่ยน ดั่งเช่นสุภาษิตที่ว่า…
“ไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง”
เบญจกัลยาณี ที่หมายถึงลักษณะความงาม 5 ประการ
ตามที่เคยมีเรื่องเล่าขานไว้ในทางพุทธศาสนา ว่ามีอุบาสิกาชื่อนางวิสาขา มีความงามอันเป็นลักษณะพึงประสงค์ห้าประการ อันได้แก่
- ผมงาม คือ มีผมที่ดกดำ เงา สลวย เหมือนหางนกยูง
- เนื้องาม คือ มีริมฝีปากแดงเหมือนตำลึงสุก เรียบสนิทมิดชิด
- ฟันงาม คือ ฟันขาวราวกับสีของหอยสังข์ เรียบเหมือนเพชร
- ผิวงาม คือ หากมีผิวดำก็มีสีดำสม่ำเสมอ เหมือนดอกอุบล (ดอกบัวสีดำ) หากผิวขาวก็ขาวสวยเหมือนดอกกรรณิการ์
- วัยงาม คือ มีความคงที่ในทุก ๆ ช่วงอายุ แม้คลอดบุตรมาแล้ว 10 ครั้งก็ยังดูเป็นสาวสดใส…”
ดังที่เราจะเห็นได้จากในวรรณคดี ในด้านความรักในหลาย ๆ เรื่องที่ผู้แต่งมักจะจินตนาการ และคาดหวังให้ผู้หญิงเป็นหญิงงามเลอเลิศ และสมบูรณ์แบบกันเกือบทั้งสิ้น “โห…คุณนางฟ้า นั่นมันคือลักษณะความงามในตำนานเลยนะ สมัยนี้คงจะยากแหล่ะถ้าจะให้มีครบ โดยเฉพาะข้อสุดท้ายอ่ะ…ทางเดียวคงต้องพึ่งหมอเก่ง ๆ จากทั่วโลกเลยมั้ง” ไฉไลกึ่งแย้งกึ่งบ่น ราวกับจะอุทธรณ์แทนสาว ๆ ทุกคนบนโลก แต่นางฟ้าก็ยังคงยิ้มอย่างใจดีราวกับไม่ถือสา ซ้ำยังชี้แนะต่อไปอย่างใจเย็น
ไฉไลเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนนั้น ล้วนมีความงามอยู่ในตัวเอง ถึงจะมีค่านิยม หรือมาตราฐานบางอย่าง มาเป็นตัวกำหนดก็ตาม ปัจจุบันความงามในอุดมคติ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านโลกออนไลน์ หรือสื่อโฆษณาต่าง ๆ ผิวขาว ตาโต จมูกโด่ง หน้าใส ปากเป็นกระจับ รักแร้เนียน ขาเรียวเล็ก จนกลายเป็นค่านิยมเป็นมาตรฐานความงาม (beauty standard) ที่สังคมยอมรับ
นอกจากอิทธิพลของสื่อในยุคปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ก็มีส่วนทำให้มนุษย์สามารถ ลบข้อจำกัดทางธรรมชาติ ในแง่ของรูปร่างหน้าตาได้ ผู้หญิงสามารถออกแบบรูปร่างหน้าตาได้ (Body project and Look design) โดยการศัลยกรรมความงาม ศัลยกรรม หรือ การควบคุมโภชนาการ โดยโภชนาการมืออาชีพ นั่นคือ ความงามของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน กลายเป็นสิ่งที่เธอนั้นเลือกเองได้ ออกแบบได้
BEAUTY กับทัศนคติของผู้หญิงต่อค่านิยมความงาม
เมื่อผู้หญิงถูกคาดหวัง ผ่านเรื่องราวของสื่อต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะหญิงงาม ที่กำเนิดอยู่ในชาติตระกูลที่มีเกียรติ และมียศสูงส่ง ก็ยิ่งมักจะถูกจินตนาการ และคาดหวังว่า จะต้องเป็นคนที่สวย ทั้งรวยทรัพย์และความงาม ในอดีตความงามของสตรี ยังถูกใช้เป็นเครื่องบ่งบอกความหมาย ถึงฐานะและบารมีของสามี หากสามีคนใดที่มีภรรยางาม ก็ย่อมได้รับการกล่าวขานและชื่นชม เมื่อความสวยงามของผู้หญิง ถูกคาดหวังอย่างมากมายภายใจสังคม ตั้งแต่อดีตสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดอาชีพต่าง ๆ ผุดขึ้นมามากมาย ตั้งแต่ ช่างเสริมความงาม ช่างทำผม ช่างทำเสื้อ และที่กำลังแพร่หลายอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น ก็คือการทำศัลยกรรมประเภทต่าง ๆ
ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้หญิงในสมัยนี้ที่ ผู้หญิงหน้าตาสะสวย มักจะได้รับการยอมรับ และเปิดกว้างในด้านต่าง ๆ มากกว่าคนที่หน้าตาขี้เหร่ ผู้คนส่วนมากในสังคม ยังนิยมความสวย ของผู้หญิงมากกว่าคุณค่า ที่มาจากตัวตนจริง ๆ หรือผู้หญิงที่มีความเก่ง ก็มิอาจที่จะสู้ทัดเทียมได้ กับผู้หญิงที่สวยกว่าตนเอง นอกจากจะต้องขวนขวายอย่างหนักมาก จึงจะสามารถไปยืน ณ จุด ๆ เดียวกันกับพวกเธอที่มีใบหน้า อันสวยงามได้ สิ่งเหล่านี้ จึงเปรียบเสมือนค่านิยมทางสังคม หรืออาจจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ที่สร้างสรรค์ให้มนุษย์ เกิดการคัดเลือกทางสายพันธุ์ที่สมบูรณ์ และเหมาะสมให้เหลือรอดเอาไว้ในสังคม และมันยังคงเป็นส่วนหนึ่ง ของจิตใต้สำนึกของเรา ที่ยากจะกลบเกลื่อน ให้หายไปจากสังคม
ดังนั้นผู้หญิงก็ยังคงต้องพยายาม สร้างสรรค์บุคลิกของตนเองให้ดูดี และสมบูรณ์แบบอยู่เสมอไม่ว่า จะด้วยหนทางใดก็ตาม และเพราะค่านิยมที่ครอบงำ ความคิดเราไว้แต่แบบนี้ ทำให้ผู้หญิงยุคใหม่หลายคน มองข้ามคุณค่าจากความงามภายใน ไปพร้อมกันด้วย แท้จริงแล้ว ยังมีความงามจากภายใน หรือจากอุปนิสัยใจคอที่ดี อ่อนโยน อ่อนหวาน จิตใจดี มีเมตตาแบบนี้ ก็นับเป็นความสวยงาม ที่สร้างเองได้จากภายใน และมันยังสะท้อน ให้บุคลิกของผู้หญิงเรามีเสน่ห์ และคุณค่าในตัวเอง อย่างมากอีกด้วย
มาตรฐานความสวยในสังคม
มาตรฐานความสวยถูกกำหนดขึ้น ผ่านบริบทมากมายในสังคม ดังจะเห็นได้จากสื่อโฆษณา ที่ชี้นำให้ผู้คนคิดว่า จะต้องมีสีผิวแบบนั้น หุ่นแบบนี้ เพื่อนำไปสู่การบริโภคสินค้า ของแบรนด์ตนเอง เวทีประกวดต่าง ๆ ที่ใช้รูปร่างหน้าตาเป็นเกณฑ์ ซึ่งเมื่อตัดสินผู้ชนะในตอนสุดท้าย ก็ถือเป็นการเคาะสรุปว่า หน้าตาที่สวยหล่อควรจะเป็นแบบไหน และมาตรฐานนี้ ก็ถูกสนับสนุนมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีปัจจัยบางอย่างเข้ามา เอื้ออำนวยความสะดวก อย่างการเติบโต ของอุตสาหกรรมความงาม และศัลยกรรม
รวมไปถึงกระแสในโซเชียล หรือ challenge ต่าง ๆ ที่ผู้คนสรรหามาเล่นก็ได้ บิดให้ค่านิยมนี้เบี้ยวไปมากกว่าเดิม เช่น การเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อแตะสะดือ ใครแตะถึงแสดงว่า … มีเอวที่คอดสวยงาม หรือแข่งกันวางเหรียญบนไหปลาร้า ใครวางได้เยอะแสดงว่า มีไหปลาร้าที่ลึกและเด่นชัด ซึ่งมายาคตินี้เอง ก็ได้สร้างเกณฑ์ที่เหนือความเป็นจริง จนสร้างความบอบช้ำ ทำลายคุณค่าและความมั่นใจ FASHION ของคนยุคใหม่
การที่หลายคนบอบช้ำ จากมาตรฐานความสวย อาจไม่ใช่แค่ความรู้สึกทุกข์ใจ หรือความกดดันที่ นำไปสู่ความพึงพอใจ ในตัวเองที่ต่ำ หากแต่เพราะมาตรฐานนั้น ได้นำไปสู่สิทธิพิเศษ บางอย่างในการใช้ชีวิต หรือโอกาสในหน้าที่ การงานที่ดีกว่า ซึ่งการที่ไม่ถูกนับว่า อยู่ในเกณฑ์ความสวยหล่อ ที่สังคมกำหนด โอกาสเหล่านั้น ก็อาจจะไม่เกิดกับตัวเรา
ด้วยความกดดัน และการถูกปิดกั้น ไม่ให้ได้รับโอกาส หลายคนจึงพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งศัลยกรรม เข้าคอร์สความงาม บริโภคอาหารเสริม ออกกำลังกายอย่างหักโหม อดมื้อกินมื้อ เพื่อให้ฟิตกับมาตรฐานดังกล่าว หนึ่งในนั้น ก็คือผู้คนที่เคยตัดสินใจศัลยกรรมจมูก
“ไฉไลว่ามาตรฐานความสวย ในสังคมตอนนี้สูงเกินไปมาก มันทำให้เราต้อง เปลี่ยนแปลงตัวเอง อยู่ตลอดเวลา และค่าใช้จ่าย ก็ไม่ใช่ถูก ๆ เลย แล้วรู้สึกว่า ทำไมเราต้องเจ็บตัวขนาดนี้ ต้องไปแก้จมูกหลาย ๆ รอบเพื่อให้ออกมาดูดี ซึ่งแก้แต่ละครั้ง เจ็บจนแทบร้อง เคี้ยวข้าวยังยากเลย”
อย่างไรก็ดี แม้ผู้หญิงเราจะรู้ว่า ความงามทั้งหลายล้วนเป็นมายาคติ ที่ถูกประกอบสร้างขึ้น แต่เราไม่อาจปฎิเสธได้ว่าผู้หญิงในยุคนี้ ยังคงให้ค่าและความสำคัญ กับความงามของรูปร่างหน้าตา และยินยอมพร้อมใจที่จะปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้มาซึ่งความงามสากล ที่สังคมกำหนดว่าเป็นมาตราฐานความงามอยู่ นั่นหมายถึงว่าผู้หญิง ยังคงวนเวียนอยู่ในกับดักของ มายาคติความงาม อย่างดิ้นไม่หลุด แม้เวลาจะผ่านไปหลายศตวรรษแล้วก็ตาม
บทความแนะนำ »»ท่องเที่ยว / รีวิวของกิน / ข่าวเกมส์ / ดูดวง
ผู้สนับสนุน » »คลิ๊ก