เคล็ดลับผิวใสไร้สิว การรักษาและบำรุงอย่างล้ำลึก ทำให้สิวหายขาดได้
เคล็ดลับผิวใสไร้สิว จะทำยังไงอยู่ ๆ สิวก็เห่อขึ้นมาเยอะมาก ๆ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ ตรงหน้าผาก กรอบหน้า คางถึงคอ เครียดมากจริง ๆ ใครไม่เป็นไม่รู้หรอก เป็นเหมือนกัน ต้องใช้เวลารักษานานมากหลายเดือนเลย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ลงมือรักษาเลย ทุกคนสู้ ๆ นะคะ สู้ไปด้วยกัน เข้าใจหัวอกเดียวกันเลยค่ะ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไฉไลเป็นโควิด-19 (เดลต้า) ทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง และไปฉีดวัคซีนกระตุ้น และหลังจากนั้นเริ่มมีอาการที่เขาเรียกว่า Long COVID นั้นอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ทำให้ร่างกายมีการอักเสบจากภายใน
ซึ่งอาการของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่ไฉไล สิวเห่อ เต็มหน้าเลยค่ะ โอ้วววว….แม่เจ้า! หาสาเหตุไม่เจอ ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้อะไร แถมประจำเดือนเดี๋ยวมาบ้าง ไม่มาบ้าง ขาด ๆ หาย ๆ อีกต่างหาก แต่เวลามาทีเขื่อนแตกเลยคร่า… หาสารพัดวิธีจะรักษา เสียเงินไปก็ไม่น้อย เสาะหา เคล็ดลับผิวใสไร้สิว ซึ่งตอนแรกไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร กว่าจะจับจุดได้ก็ถึงบางอ้อ… มาจากฮอร์โมนของร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงนี่เอง สรุปก็ร่างกายอักเสบ แต่เรื่องสิวมันก็ไม่สิวเลยค่ะ
ประจำเดือนมีผลกระทบจากฮอร์โมนหรือไม่
ตามการศึกษาทางด้านผิวหนังพบว่า 60% ของผู้หญิงเป็นสิวฮอร์โมนรุนแรงขึ้นในช่วงมีประจำเดือน นื่องจากในช่วงประจำเดือนระดับฮอร์โมนจะมีโอกาสแปรปรวนมากที่สุด และมีสิวเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษในช่วงมีประจำเดือน โดยปกติรอบเดือนมีระยะเวลา 28 วัน (นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนและสิ้นสุด 1 วัน ก่อนที่จะมีเลือดประจำเดือนอีกครั้ง) โดยในแต่ละวันระดับฮอร์โมนจะแตกต่างกัน
วันที่ 1 – 14 : ในช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่กำหนดลักษณะความเป็นหญิงจะมีระดับที่มากกว่าฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ส่งผลให้ผิวดูสวย และเปล่งปลั่ง
วันที่ 14 – 28 : ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้นกว่าเอสโตรเจน เพื่อทำให้เกิดการหนาตัวของผนังมดลูก แต่เมื่อถึงเวลาที่ประจำเดือนมา ทั้งระดับเอสโตรเจน และโปรเจนเตอโรนจะลดต่ำลง ส่งผลให้ผนังมดลูกสลายตัวออกมาเป็นประจำเดือน และทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ซึ่งเป็นฮอรโมนเพศชายมีอยู่ในปริมาณที่สูงกว่า จึงกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนใบหน้า ส่งผลให้เกิด สิวฮอร์โมน
สิวฮอร์โมนจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ปัญหาสิวสำหรับวัยรุ่น สิวประจำเดือน หรือสิวที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่พฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน ก็เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ระดับฮอร์โมนเกิดการแปรปรวน ได้เช่นกัน เมื่อเราไม่สามารถ ที่จะควบคุมฮอร์โมนในร่างกายได้ แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงความเครียด อาหาร หรือปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล และหมั่นดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงการเลือกผลิตภัณฑ์รักษาสิวให้เหมาะสม และการรักษาความสะอาดที่เป็นหัวใจหลัก ของการดูแลรักษาสิวอักเสบขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ว่าใครก็ทำตามได้ง่าย ๆ
เคล็ดลับผิวใสไร้สิว แนวทางการดูแลผิวดูแลผิวของคุณ
การรักษาสิวฮอร์โมนอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดสิวซ้ำ จะช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวฮอร์โมนได้ด้วย ผู้ที่มีสิวฮอร์โมนควรมีวินัย ในการดูแลผิวให้สะอาด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยวิธีดังต่อไปนี้ เคล็ดลับผิวใสไร้สิว
◾ ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่เข้านอนโดยที่ยังไม่ล้างเครื่องสำอางบนใบหน้า
◾ หลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ลาโนลิน (Lanolin) ซิลิโคน (Silicone) และน้ำมันแร่ (Mineral Oil) ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันผิว และเป็นสาเหตุของเกิดสิวตามมา
◾ ทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันผิวคล้ำเสีย และแห้งกร้านจากแสงแดด โดยเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน และสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันผิว
◾ หลีกเลี่ยงการขัด หรือสครับผิวหน้าอย่างรุนแรง หรือบ่อยครั้ง เพราะจะทำให้ ผิวที่เป็นสิว เกิดการระคายเคืองมากขึ้น
◾ ไม่บีบ แกะ หรือสัมผัสผิวบริเวณที่เป็นสิว เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงขึ้น และทิ้งรอยแผลเป็น ซึ่งรักษาได้ยาก
◾ ออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และอาจช่วยลดการอักเสบของผิวได้
◾ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทเนื้อแดง อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลสูง นอกจากนี้มีงานวิจัยบางชิ้น ระบุว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม อาจกระตุ้นให้เกิดสิว แต่ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ ที่จะสรุปได้ว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์นม เกี่ยวข้องกับการเกิดสิวได้จริง จึงต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
◾ ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่น ฟังเพลงสบาย ๆ ทำสมาธิ เล่นโยคะ ซึ่งอาจช่วยให้สิวฮอร์โมนหายเร็วขึ้น
วิธีช่วยแก้ปัญหาสิวให้หายได้
1.ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรรักษาสิว
การทำความสะอาดผิวหน้า เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะหากผิวหน้าที่สกปรก จะทำให้เกิดสิวได้ง่าย สำหรับผู้ที่เป็นสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวฮอร์โมน สิวอักเสบ สิวอุดตัน และสิวผด เคล็ดลับผิวใสไร้สิว แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า หรือโฟมล้างหน้า สูตรรักษาสิว ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ โดยเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า และอ่อนโยนต่อผิว
2.พอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณช่วยปลอบประโลมผิว ที่เสื่อมโทรมให้สดชื่น กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ รักษาแผล ลดการอักเสบ ป้องกันผิวไหม้จากแสงแดด บำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น และอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นพืชมหัศจรรย์ ดังนั้น เมื่อเป็นสิวฮอร์โมน ลองนำว่านหางจระเข้มาพอกหน้า ก็จะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น
3.มาส์กหน้าด้วยน้ำผึ้ง
นอกจากว่านหางจระเข้ ที่จะเป็นตัวช่วยรักษาสิวแล้ว น้ำผึ้งก็เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ ที่ได้รับความนิยม โดยน้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย เพียงมาส์กหน้า หรือพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งเป็นประจำ และล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ลดอาการอักเสบของสิว เพิ่มความชุ่มชื้น และผิวดูเปล่งปลั่ง
4.ใช้น้ำมะนาวช่วยผลัดเซลล์ผิว
เป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวเดิม เผยเซลล์ผิวใหม่ด้วยการใช้มะนาว อุดมไปด้วยกรด Alpha Hydroxy Acids หรือ AHA ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว ที่ตายออกได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดสิวอุดตัน วิธีการรักษาสิว เคล็ดลับผิวใสไร้สิว เพียงผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา กับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ทั้งนี้ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจเกิดการระคายเคืองจากกรด AHA
5.เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ชาเขียว
ชาเขียวอุดมไปด้วย สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและต้านแบคทีเรีย รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิว สารสกัดจากชาเขียว ยังช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ที่เป็นสาเหตุการเกิดสิวด้วย ดังนั้นแนะนำให้เลือกใช้โทนเนอร์ ที่มีส่วนผสมจากชาเขียว มาเช็ดหน้าก่อนใช้สกินแคร์ตัวอื่น ๆ เพื่อลดการอักเสบของสิว
6.แต้มสิวด้วยน้ำมัน Tea Tree Oil
Tea Tree Oil หรือ น้ำมันทีทรีออย มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิวซ้ำอีกได้ และลดการอักเสบของสิว ใช้น้ำมันทีทรีออยบริสุทธิ์ มาแต้มบริเวณสิวฮอร์โมน จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ ทั้งนี้ในการใช้รักษา ควรระวังการเกิดอาการผิวไหม้ ซึ่งอาจเลือกใช้สกินแคร์ ที่มีส่วนผสมของน้ำมันที ทรีออยแทน เคล็ดลับผิวใสไร้สิว
สิวฮอร์โมนเป็นปัญหาผิวที่พบได้ทั้งในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โดยพบได้บ่อยในผู้หญิง ซึ่งสิวฮอร์โมนมักไม่หายขาด และเป็นซ้ำได้อีกเมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อรู้สึกเครียด มีประจำเดือน หรือเมื่อเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน หากใช้วิธีการดูแลตนเองในเบื้องต้นแล้วยังไม่สามารถควบคุมปัญหาสิวได้ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ซึ่งจะช่วยวินิจฉัยอาการและแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคน
อ่านต่อ>>>สาเหตุของสิว